+ 007 548 58 5400

Hot Line Number

1240 Park Avenue

NYC, USA 256323

7:30 AM - 7:30 PM

Monday to Saturday

เจาะลึกยาลดความอ้วนมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

17 Aug

เจาะลึกยาลดความอ้วนมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับยาลดน้ำหนักอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่คุณทานและวิธีการทำงานของยาที่ออกฤทธิ์อย่างไร phentermine อาจเป็นสาเหตุนำไปสู่การนอนไม่หลับ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีอาการกระวนกระวายใจ หรื ยาลดน้ำหนักที่ส่งผลสารสื่อประสาทในสมอง เช่น Belviq (lorcaserin) หรือ Contrave สามารถก่อให้เกิดอาการปวดหัว, คลื่นไส้และอาเจียน, ท้องผูก, ปากแห้งและ เวียนหัว ยาลดความอ้วนหลายชนิดอย่าง phentermine หรือ dietthylpropion ปกติแล้วมีคำแนะนำให้ทานเฉพาะในระยะสั้น ๆ (ไม่เกิน 12 สัปดาห์) เนื่องจากความเสี่ยงต่อการพึ่งพา และผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว

อย่างไรก็ตามตัวยาที่ประกอบไปด้วย orlistat (Alli, Xenical) สามารถใช้สำหรับการลดน้ำหนักในระยะยาวรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย รวมถึงบำรุงรักษาน้ำหนักที่หายไปก่อนหน้านี้ โดยตัวยา Alli สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ ในขณะที่มีตัวยาใหม่ทีเพิ่งออกมาอย่าง Qsymia (phentermine และ topiramate) ตัวที่สองคือ Belviq (ประกอบด้วย lorcaserin) ตัวที่สามคือ Contrave (bupropion และ naltrexone) และตัวสุดท้ายคือ Saxenda (liraglutide) ทั้งหมดนี้ระบุไว้สำหรับการใช้งานในระยะยาวได้โดยไม่มีผลข้างเคียง แต่หากน้ำหนักไม่ลด 3 ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ภายใน 12 ถึง 16 สัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หยุดใช้ตัวยาเหล่านี้ในทันที แต่การลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพนั้น จะต้องควบคู่ไปกับวินัยในการควบคุมอาหาร โดยจะต้องรับประทานแต่ละมื้อที่มีแคลอรี่ต่ำ และจัดแผนการออกกำลังกายที่แพทย์รับรองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ยาลดน้ำหนักอาจมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง หรืออาจมีศักยภาพในการทำให้ผู้ทานยามีอาการเสพติด และรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง โดยยาลดความอ้วนส่วนใหญ่ในตลาดนั้นอยู่ในกลุ่ม sympathomimetic amines โดยจะไปกระตุ้นหัวใจ ทำให้ความดันโลหิตสูง และอัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น โดยปัจจุบันนี้มีตัวยาหลายชนิดที่ถูกแบนไม่ให้นำมาผลิตขาย อย่างตัว Fenfluramine (Pondimin) ที่มีผลข้างเคียงต่อลิ้นหัวใจที่เป็นอันตรายอย่างมาก และไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปเนื่องจากผลข้างเคียงนี้ โดยเจ้าสารตัวนี้จะออกฤทธิ์ทำให้ความอยากอาหารของเราลดน้อยลง และอีกตัวคือ Sibutramine (Meridia) ที่ถูกนำออกจากตลาดสหรัฐฯในปี 2010 นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากโรคหัวใจอย่างรุนแรง ได้แก่ หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง จะเห็นได้ชัดว่ายาลดความอ้วนนั้น ส่วนใหญ่จะมีผลข้างเคียงกับหัวใจโดยเฉพาะ ดังนั้นไม่ควรกินด้วยความระมัดระวัง หรือขอคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนรับประทานจะปลอดภัย และได้ผลดีกว่า